วิสาสะ น. ความคุ้นเคย, ความสนิทสนม; การถือว่าเป็นกันเอง เช่น หยิบของไปโดยถือวิสาสะ. ก. พูดจาปราศรัยอย่างคุ้นเคยกัน เช่น ไม่เคยวิสาสะกันมาก่อน. (ป. วิสฺสาส; ส. วิศฺวาส).
(พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542)
…
บ้านไม้หลังเก่าอายุกว่าหกสิบปี สภาพทรุดโทรมผุพังได้ถูกเราพลิกฟื้นตกแต่งด้วยงบประมาณอันจำกัดเพื่อเนรมิตให้มันเป็นบ้านและร้านอาหารเล็กๆ อยู่ในซอยอารีย์สาม เราใช้เวลาคิดและตกแต่งมันอย่างเมามันไม่ต้องอิงหลักการใดๆ ตัวบ้านทาสีครีมอ่อนตัดด้วยกรอบหน้าต่างสีขาว ด้านนอกปูหญ้าและหินสีแดงเป็นแนวทางเดินโค้งโรยด้วยหินกรวดขนาดเล็ก สารพัดพันธุ์พืชถูกลำเลียงมาวางไว้ตามขอบตามมุมต่างๆ บ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมวางขวางหน้าบ้านให้ทางเดินแยกออกเป็นซ้ายขวา ก่อนจะเข้ามารวมกันอีกครั้งหน้าชานบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องสีเขียวอ่อนลายโบราณ ภายในเราเลือกใช้สีเลือดหมูส้มโดยไม่มีเหตุผลใดๆ นอกจากว่ามันเป็นอารมณ์วูบหนึ่งที่รู้สึกว่าสวยดี สามสี่เดือนของการเติมโน่นนิดนี่หน่อยเราก็ได้สถานที่เราชอบใจยิ่งนัก
บ่อยครั้งที่บอกชื่อร้านอาหารให้ผู้คนฟัง สิ่งที่ได้รับกลับมามักจะเป็นความสงสัยว่าทำไมตั้งชื่อในเชิงลบและก้าวร้าวแบบนั้น จริงๆ แล้วคำว่าวิสาสะน่าจะเป็นคำดี เพียงแต่ถูกใช้ในแง่ลบบ่อยเกินไป โดยเฉพาะการทำอะไรไม่เกรงใจเพราะความเป็นกันเอง หรือการถือวิสาสะนั่นแหละ ในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนคิดถึงคือการพบปะสนทนาวิสาสะกันอย่างคนคุ้นเคย ซึ่งเป็นความตั้งใจแต่อาจจะไม่รอบคอบของคนตั้งชื่อที่หวังให้ที่นี่เป็นที่นั่งกินข้าว พูดคุยพบปะ ทอดหุ่ยสบายๆ ในบรรยากาศบ้านสวนกลางหมู่คอนโดซอยอารีย์ (แต่ตอนนี้พบว่าอากาศหน้าร้อน สวนร่มรื่นเท่าไหร่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ด้วยเหตุว่าเปิดเฉพาะช่วงกลางวัน ต้องอาศัยห้องแอร์อย่างเดียว)
หลังจากที่เลื่อนเปิดไปจนไม่อยากจะเลื่อนอีกแล้ว ตอนนี้ร้านก็เปิดแล้วแบบงงๆ แบนเนอร์ป้ายหนึ่งที่แขวนไว้หน้าร้านตั้งแต่ก่อนมีป้ายร้านจริงๆ เป็นแบนเนอร์โปรโมตข้าวแช่สีสะดุดตาจนคนเอาไปคิดว่าร้านนี้ขายข้าวแช่เป็นหลัก มีโทรศัพท์มาถามเรื่อยๆ ว่า ที่นั่นร้านข้าวแช่ซอยสามใช่ไหม
จริงๆ เราเริ่มต้นด้วยอาหารบ้านๆ สี่ห้าอย่างก่อนจะแตกยอดออกมาเป็นของทานเล่นและอาหารพิเศษอย่างข้าวแช่และก๋วยเตี๋ยวบก คอนเซ็ปท์ร้านที่วางไว้แต่แรกก็คืออาหารจากวัตถุดิบที่ดี ราคาสบายๆ และที่สำคัญพยายามมีอาหารแปลกๆ ตามกลยุทธบลูโอเชียน เพราะการแข่งขันในเรดโอเชียนละแวกนี้สงสัยจะสู้คนอื่นไม่ไหว อาหารที่ได้รับความนิยมช่วงสองอาทิตย์แรกนี่จะเป็นโรตีแกงเนื้อกับปลาทรายทอดขมิ้น ส่วนแกงเหลืองไหลบัวที่คาดว่าจะมาแรงกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ กุ้งทอดแบบปักษ์ใต้ก็ได้รับคำชมมากพอสมควร ที่ยังหวั่นๆ ก็คือความเป็นแม่ละเมียดของแม่ครัวและผู้ช่วยที่เรามักจะได้คำชมเสมอว่าอาหารช้าได้ใจ แต่ตอนนี้เริ่มลงตัวขึ้น เริ่มเรียนรู้แล้วว่าจะย่นระยะเวลาการเตรียมตัวยังไง
ว่างๆ ขอเชิญเพื่อนฝูงเข้ามาสนทนาวิสาสะ เปิบข้าวแดงแกงร้อนกันได้ตามชอบใจ
ปล. 1 ได้โพสท์ที่ห้าร้อยโว้ย ฮ่าๆๆ
ปล. 2 เก็บค่าโฆษณาป่าววะ