เมื่อวันก่อนได้ตะลอนผ่านท้องทุ่งศาลายา พ้นทุ่งข้าวเขียวงามพบเรือกสวนไร่อีกไม่น้อย พลันหวนนึกถึงพรรคพวก นึกถึงกีตาร์เสียงดิบๆ เสียงร้องเพรียกหาของเพื่อนเสียงดีจริงใจ ยิ่งเห็นศาลาไม้ข้างทางข้างคลองยิ่งรับรู้ถึงบรรยากาศเก่าๆ บนอารมณ์เดิมๆ….ใช่…. ชีวิตกำลังเดินทาง….
“ลองชิมสิ พี่ทำเองนะ”
เกือบยี่สิบปีที่แล้ว หนึ่งในเพื่อนฝาแฝดลงมือทำ “บลูเบอร์รี่ชีสต์พาย” เมนูยอดฮิตสำหรับการเริ่มต้นในวันที่คำว่าเบเกอร์รี่เคลื่อนตัวเข้ามา
ในพื้นที่โรงอาหารของเรา มีน้องๆได้แบ่งปันกันไป นอกเหนือจากเพื่อนๆไม่กี่คนที่ร่วมสถาณการณ์
“เป็นไง อร่อยมั้ย” เจ้าของงานพึงอยากได้คำตอบ
มันเป็นเรื่องยากอยู่ในการลิ้มชิมอาหารที่เพื่อนทำ แล้วให้ตอบทางใดทางหนึ่ง ความชอบของเรากับคำว่าอร่อยจะตีกันสับสน จริงใจ…เอาใจ
ใครๆเกือบล้านเปอร์เซ็นต์มักจะตอบอย่างเอาใจทั้งนั้น โถ…ก็เขาอุตส่าห์ทำมาแล้วนิ
บนพื้นที่ที่อบอวลด้วยความเกรงใจ พลันเกิดประโยคจริงใจสุดชีวิต
“พี่… มันต้องเป็นยังไงอ่ะพี่ ผมไม่เคยกินอะไรอย่างเงี้ยพี่ รสชาติจริงๆมันต้องเป็นยังไงล่ะพี่ ผมไม่รู้…”
เสียงคำถามตอบกลับจากน้องคนหนึ่ง คนเดียวกับที่เป็นหัวหน้าค่ายในรุ่นของมัน
และที่สำคัญเราเองก็ตอบคำถามมันไม่ได้เช่นกัน
จากวันนั้นถึงวันนี้ เกือบยี่สิบปี ใครๆก็ยัง “บลูเบอร์รี่ชีสต์พาย”
ล่าสุดที่โรงเรียนที่ผมสอนก็อย่างนี้แหละ ยังคงเลือกเมนูนี้มานำเสนอกันอยู่ ไอ้ในใจก็แอบคิดอยู่ว่า ( คิดมานานเต็มทน ) จะมีวันที่ใครโชว์ฝีมือ ขนมเปียกปูน ทองหยอด ฝอยทอง ฯลฯ กันบ้างไหมหนอ
ไม่นานมานี้ได้ทักทายเพื่อนเก่าใน face book เพื่อนเล่าว่าตอนนี้รับออร์เดอร์ทำ ขนมกลีบลำดวน มัสมั่น ฯลฯ อยู่ (จำได้ชัดๆสองอย่าง แต่ก็อยู่ในสายนี้แหละ) ไม่มีหน้าร้านด้วย และก็อยู่ได้ด้วยดี เหนื่อยตามสภาพ ผมได้แต่บอกเพื่อนว่า “แก….เจ๋งว่ะ” คิดอยู่ว่าต้องหาโอกาสอุดหนุน
จากเรื่องราวเบื้องต้นทำให้….
นึกถึงเรื่องบอกกล่าวจากเพื่อนทำงานซาวด์ คร่ำหวอดมากว่าสิบปี ได้ใกล้ชิดคนมิกซ์เสียงระดับแนวหน้าของบ้านเราคนนึง (แต่เป็นต่างชาติ) ก่อนเขาจะย้ายถิ่นฐานกลับภูมิลำเนา
ข้อมูลเขาว่า เคยมีวิจัยไม่นานมานี้ที่อเมริกา ให้เด็กฟังเพลงเดียวกันจากสี่แหล่งเสียง (๐๑ไวนิล-แผ่นเสียง ๐๒ซีดี ๐๓เอ็มพีสาม(เรสโซลูชั่นสูง) ๐๔ เอ็มพีสาม(เรสโซลูชั่นต่ำ อย่างที่ดาวน์โหลดกัน) ว่าอย่างไหนเขาพึงพอใจ หรือแปลว่าเพราะที่สุด ผลที่ได้คือ เอ็มพีสามเรสโซลูชั่นต่ำ
นึกถึงผัดไท ที่แม่ผมเอ่ยอ้างประจำว่า วันนี้หาคนทำผัดไทเป็นยากยิ่ง ทำกันมั่วๆทั้งนั้น นี่ไม่ใช่ผัดไทอย่างที่เคยเป็น พร้อมทั้งบอกเล่าขั้นตอนส่วนผสมผัดไทว่าจริงๆแล้วมันประณีตยังไง…
นึกถึงข้าวหลาม พ่อแม่ก็บอกว่ามันเปลี่ยนไปมากมาย เมื่อก่อนแต่ละท้องที่มีรสชาติเฉพาะตัวอยู่ เดี๋ยวที่เน้นหวานหมดทุกที่ แล้วเนื้อข้าวบางที่ก็เปลี่ยนไป ไม่ได้มาจากการเผาอย่างเดิม ประมาณว่านึ่งก่อนแล้วค่อยเผา…
นึกถึงอาหารฟิวชั่น ว่ามันคิดใหม่ หรือว่ามันทำอย่างเดิมไม่เป็นกันแน่หนอ…
นึกถึงกุ้งสด ผ่านไปอีกห้าปี กุ้งซีพีจะกลายเป็นมาตรฐานกุ้งสดรึเปล่า…
นึกถึงเนื้อย่างลาบอุดร ที่ผ่านการต้มมาก่อน สั่งเมื่อไหร่ค่อยย่างจะได้สุกเร็ว ทั้งยังใส่ซีอิ๋วดำ ไม่รู้ว่าเอาเร็ว และไม่ปรุงหรือยังไง??
นึกถึงก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เท่าที่จำได้ เมื่อก่อนไม่เน้นหวานขนาดนี้ ตอนนี้สรุปว่า ต้มยำแปลว่า หวาน+เปรี้ยว
เคยถกเถียงด้วยความเบื่อหน่ายของคำว่า “เมื่อก่อน….”
“อ้าว….แล้วเมื่อก่อนของเมื่อก่อน มันจะเป็นอย่างไรเล่า” มันอาจจะเป็นอย่างตอนนี้ก็ได้ใช่ไหม หรืออาจแตกต่างจนเราคาดคิดไม่ถึงอย่าง ไวน์หรือเบียร์
เอ….หรือมันคือโลกของการสัมพัทธ์โดยแท้….
เพ็นดูลั่มแห่งความคิด แห่งรสนิยม แห่งความเหมาะสม แห่งมาตรฐาน แกว่งไปมาอย่างไม่รู้จบอย่างนั้นหรือ….
เอ้า…ฟุ้งๆกันไป คร่อก…