“แพรวา เช้าแล้วลูก ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะลูก “
เสียงเดิมๆ ประโยคเดิมๆอย่างนี้เสียดเข้าหูหนูเกือบทุกเช้า ทุกเช้าที่ต้องไปโรงเรียน ทุกเช้าที่ต้องเรียนพิเศษ
“หนูขออีกสิบนาทีนะแม่น้า หนูขออีกนิดนึง” หนูก็ต่อรองอย่างนี้ทุกเช้าเหมือนกัน โถ…เด็กประถมอย่างหนูจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาตื่นเช้าๆทุกวัน
“สิบนาทีเท่านั้นนะ อย่าโกงแม่ล่ะ” แม่ก็ยอมหนูทุกครั้งเหมือนกัน
หนูดึงผ้านวมปิดหัวปิดทั้งตัว เพื่อเอาไออุ่น จากห้องที่ยังมีความเย็นของแอร์ค้างอยู่ บ้านเราตั้งแอร์ให้ปิดก่อนเราตื่นทุกเช้า
“นี่ชั้นจะต้องตื่นเช้าอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่หน้อ เด็กคนอื่นๆนี่เขาจะต้องตื่นกันอย่างนี้เหมือนกันมั้ยนะ” ความคิดหนูใต้ผ้านวม
ห้านาที…แปดนาที…เก้านาที
“แพรวา ได้เวลาแล้วลูก” เสียงแม่ตะโกนมาจากข้างล่าง
“จ้าแม่ หนูตื่นแล้ว” หนูส่งเสียงกลับ ค่อยๆเลิกผ้านวมช้าๆ มันยังขี้เกียจอยู่นี่
“อะไรหน้อ ที่ทำให้เราต้องมาตื่นเช้าอย่างนี้” หนูแอบคิดขณะเลิกผ้านวมพ้นศีรษะ หนูค่อยๆลืมตาขึ้น แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาในห้องจากช่องว่างระหว่างม่านทั้งหลาย
“นี่ไง นี่ไง ตัวการทำให้เช้า” เหมือนหนูจะได้คำตอบแล้ว
“แสงแดดนี่ไงที่ทำให้ทุกคนต้องรีบตื่นมาทำนู้นทำนี่ แต่เอ…จะโทษแสงแดดก็เหมือนจะไม่ถูกน้า ก็แสงมันมาจากพระอาทิตย์ ใช่ๆตัวการที่แท้จริงมันคือพระอาทิตย์นี่เอง ใช่แน่ๆ” นั่นเป็นคำตอบสุดท้ายก่อนที่จะคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ
เธอป่าวประกาศบอกเพื่อนๆ ว่า พระอาทิตย์นี่แหละตัวดี ตัวการที่ทำให้เด็กๆอย่างพวกเราต้องตื่นเช้าอย่างน่าสงสาร
“แต่พ่อแม่เราเขาก็ตื่นเช้าอยู่แล้วนะ ตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอีกแหนะ” เพื่อนบางคนก็ค้านแพรวา
“ใช่ไง เพราะเขาต้องตื่นมาเตรียมนู้นเตรียมนี่รอเวลาพระอาทิตย์ขึ้นไง โฮย…นี่นะ ถ้าพระอาทิตย์รีรออีกหน่อยนะ ทุกคนก็ได้พักผ่อนเต็มที่กว่านี้แล้ว” หนูอธิบาย เชื่อหนูสิ นี่คือการค้นพบนะเนี่ย
“แพรวาตื่นๆลูก รีบมาอาบน้ำเร้ว” เสียงแม่อีกแล้ว
“แม่ วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่เหรอ หนูตื่นสายได้หน่อยนึงนี่ค่ะ” ถึงหนูจะงัวเงีย แต่หนูมั่นใจ หนูรอคอยวันนี้มาทั้งอาทิตย์นี่
“ใช่จ้ะ แต่วันนี้พ่อจะพาเราไปเที่ยวทะเลไง ออกเช้าๆอากาศสดชื่น ไม่ต้องรีบร้อนไงจ้ะ”
อ้อ…ใช่ๆ วันนี้หนูจะได้ทิ้งการเรียนทุกอย่างเพื่อไปเที่ยว ดีใจจัง
พลังอะไรก็ไม่รู้ดันหลังหนูขึ้นจากเตียง เจ้าพลังนั้นเหวี่ยงความงัวเงียเพื่อนสนิทของหนูทิ้งไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไรนะ ไม่เจอกันซักวัน
นี่ไงๆ ตื่นเช้าทุกๆวันจนจำไม่ได้เลยว่าวันไหนเป็นวันไหน หนูคิดค้อนพระอาทิตย์เสียทีหนึ่ง ก่อนจะวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวพุ่งเข้าห้องน้ำ
มันเป็นวันที่สดชื่นจริงๆ หนูแทบจะเอาหน้าแนบกับบานหน้าต่างกระจกรถ เมื่อพ้นเมือง พ่อให้เปิดหน้าต่างสูดหายใจลึกๆ …ชื่นใจจัง เราเห็นสีเขียวจากต้นไม้หนาตาขึ้น มีบ้านอาคารอยู่อาศัยแทรกเป็นระยะมันต่างจากเช้าวันไปโรงเรียนจริงๆเลย
ทั้งวันเป็นวันแห่งความสุข ทั้งกินทั้งเล่นสบายใจนัก หนูยิ้มแก้มปริแทบจะทั้งวัน
ล่วงเข้าเวลาเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเราจะมีปาร์ตี้ปิ้งย่างอาหารทะเลกันตามที่พ่อบอก ตอนนี้หนูนั่งเล่นอยู่บนหาดกับแม่ เราเพิ่งขึ้นจากทะเล เรากลับมาเป็นคนมองคนอื่นๆที่กำลังเล่นน้ำ เสียงหัวเราะลอยมากับกระแสลมอยู่เรื่อยๆ
“ทะเลนี่ดีจังนะแม่ มีแต่คนมีความสุขเต็มไปหมดเลยค่ะ” หนูว่านะ
“จ้ะ จริงๆหนูต้องบอกว่าบนชายหาดล่ะมั้งค่ะ ทะเลมันกว้างไปน่ะจ้ะ หนูไม่รู้หรอกบนเรือตรงนู้นตรงนั้น คนเขาทำอะไรกันอยู่หนะ เขาอาจจะกำลังทำงานไม่ได้มาพักผ่อนอย่างพวกเราก็ได้นะ” แม่พูดพลางชี้นิ้วไปที่เรือที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งก็มีให้เห็นกระจายทั่วผืนน้ำ แต่แหม…ขัดใจจัง ก็หนูไม่เห็นนี่ว่าคนพวกนั้นเขาทำอะไรยังไงกัน เอาเท่าที่หนูเห็นไม่ได้เหรอ ….แหม…แม่นี่
“แม่จะไปล้างตัวแล้ว ขึ้นกันหรือยังล่ะ” แม่ถาม
“หนูนั่งตรงนี้อีกแป๊บได้ไหมค่ะ นานๆมาทีหนะแม่” หนูยังขัดใจอยู่อีกนิด
“อยู่ตรงนี้ อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวแม่มา” ว่าแล้วแม่ก็ลุกไป
หนูนั่งมองขอบฟ้า ขอบทะเล บรรดาเรือที่แม่เอามาขัดหนูเมื่อกี้ ผู้คนเล่นน้ำกัน ลมพัดเย็นๆ
หนูเงยหน้าขึ้นมาอีกหน่อย นั่นไง …เจ้าพระอาทิตย์ สวยจัง กลมแดงเป็นไข่เค็มเชียว นี่เจ้าต้องยิ้มอยู่แน่ๆเลยใช่มั้ย
“ใช่จ้ะ” เสียงเบาๆข้างๆหู
“ฮื่อ เสียงใครหนะ” หนูตกใจ
“ก็ไอ้ที่หนูว่ากลมแดงและกำลังยิ้มอยู่ไงจ้ะ” เสียงนั้นตอบมา ก่อนจะพูดต่อ
“ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ที่ต้องออกมาให้เธอเห็นทุกๆวัน บางวันฉันก็อยากจะนอนนานๆ อยากพักไปเที่ยวบ้างเหมือนกันนะ”
“แล้ว…แล้ว…ทำไม ไม่ไปล่ะ” หนูทำใจกล้าถามไปในความคิด
“อือ…มันเป็นหน้าที่ของฉัน แล้วฉันก็ภูมิใจกับมันนะ ถึงจะมีบางวันที่เหนื่อยๆและท้อไปบ้าง ฉันยึดมั่นในหน้าที่ของฉันมายาวนานก่อนเธอเกิดมากมายนัก” เสียงนั้นตอบ
“มีวันที่เหนื่อยด้วยเหรอ” หนูถาม
“ก็บางวันก็มีคนมาตำหนิฉัน มาว่าฉันเป็นตัวการเรื่องร้ายๆโน่นนี่”
“น้อยใจเหรอ”
“บางวูบหนะ ถ้าบังเอิญไปได้ยินหรือไปรู้มา แต่พอหันหน้าไปมองอีกหลายๆชีวิตที่เขารอคอยฉัน พร้อมจะมีชีวิตพร้อมกับฉันมันก็ชื่นใจนะ เธอจำตลอดสองข้างทางที่เธอเดินทางมาได้ใช่มั้ย สีเขียวเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งความภูมิใจของฉันนะ”
“คุณเป็นผู้สร้างสีเขียวของต้นไม้เหล่านั้นเหรอ”
“โอ๊ะ…อย่าหนู…อย่าเข้าใจผิด ฉันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้สีเขียวเหล่านั้นแข็งแกร่งและหยัดยืนได้เท่านั้น แต่ส่วนของชั้นก็สำคัญมากอยู่เชียวหน่า”
“แต่พวกหนูต้องตื่นเช้าเพราะคุณ…”
“เมื่อกี้หนูยังชมอยู่เลยว่าชั้นสวยดีไม่ใช่เหรอ เวลาหนูตื่นเช้าๆ ก็นึกถึงความงามของชั้นตอนนี้ไว้บ้างสิจ้ะ” เสียงนั้นหัวเราะก่อนพูดต่อ
“ฉันมีหน้าที่ของฉัน หนูมีหน้าที่ของหนู หนูอย่าเอาหน้าที่ของฉันมาเป็นเหตุผลที่ทำให้หนูต้องตื่นเช้าเลยนะจ้ะ” เสียงนั้นหัวเราะอีกครั้ง
“แพรวา ลูก ขึ้นมาอาบน้ำล้างตัวได้แล้วจ้ะ” เสียงแม่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
หนูหันไปพร้อมยื่นมือให้แม่ดึงตัวหนูขึ้น หนูลุกขึ้นเดินตาม อดไม่ได้ที่จะหันมามองพระอาทิตย์ที่กำลังเรี่ยน้ำอีกครั้ง
“แม่ขา พระอาทิตย์สวยจังเลยนะคะแม่”
Read Full Post »