Feeds:
Posts
Comments

Posts Tagged ‘นิทาน’

หนึ่งปีมานี้ได้อ่านหนังสือนิทานเด็กหลายเล่มกว่าที่เคยอ่านหลายสิบปีที่ผ่านมารวมกัน มีหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจในแนวคิด รูปภาพ และการใช้คำที่มีเสียงดึงดูดความสนใจ แต่เรื่องที่เด็กแปดเดือนที่บ้านชอบบางทีเราก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แม้จะเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดและลักษณะคล้ายคลึงทางพันธุกรรมบางอย่าง แต่ผมก็พบว่าผมกับเจ้าเด็กน้อยฟิล์มนัวร์คนนี้มีรสนิยมไม่ค่อยตรงกัน

The Dot

The Dot เป็นเรื่องที่ผมไปเห็นตอนที่ไปเที่ยวอังกฤษหลายปีมาแล้ว จะว่าไปมันก็ไม่ใช่นิทานสำหรับเด็กเลยทีเดียว มันเหมาะที่จะให้ผู้ใหญ่อ่านมากกว่าด้วยซ้ำ จากวันนั้นถึงวันนี้ผมเจอหนังสือเด็กอีกหลายเล่ม แต่ยังไม่ชอบเล่มไหนเท่าเล่มนี้

The Dot เป็นเรื่องของเด็กหญิงคนนึงชื่อ Vashti ผู้ขาดความมั่นใจ ในชั่วโมงการเรียนศิลปะครูสั่งให้นักเรียนวาดรูปรูปหนึ่ง พอจบชั่วโมงครูก็พบว่า Vashti มีแต่กระดาษเปล่าๆ พร้อมกับคำบอกเล่าว่าเธอ “วาดรูปไม่เป็น” ครูก็เลยให้ Vashti ลองจุดดูบนกระดาษนั่นหนึ่งจุด

“เอ้า แล้วก็เซ็นชื่อซะ”

วันรุ่งขึ้นเด็กหญิงเห็นผลงานของตัวเองถูกเอาใส่กรอบแขวนแสดงไว้หน้าห้อง เธอเดินเข้าไปดูด้วยความประหลาดใจ แล้วทันใดเธอก็เกิดประกายความคิด “ฉันน่าจะสร้างจุดได้ดีกว่านี้นี่นา”

เธอกลับไปบ้าน แล้วก็รื้อชุดสีน้ำที่เก็บไว้มานานออกมา แล้วก็เริ่มทดลองจุดสีต่างๆ

“ถ้าฉันจุดเล็กได้ ฉันก็สร้างจุดใหญ่ได้”

เธอลองจุดให้ใหญ่ขึ้น ลงสีพื้น ลงสีสลับ ทำจุดเป็นวงเดี่ยววงซ้อน ทำจุดเป็นลายเส้นก้นหอย สร้างจุดโดยใช้ช่องว่าง และอื่นๆ อีกหลายวิธีที่จะสรรค์สร้างจุด สุดท้าย เธอก็เปิดแสดงงานศิลป์ “The Dot” มีคนเข้ามาชมมากมาย

เรื่องมันขมวดปมตอนจบเมื่อมีเด็กชายอีกคนหนึ่งเข้ามาขอลายเซ็นและแสดงความชื่นชมในตัว Vashti เด็กชายลงท้ายว่า “ฉันอยากวาดรูปได้บ้างจัง”

“ไหนเธอลองขีดเส้นซักเส้นนึงสิ” Vashti บอก

“เอ้า แล้วก็เซ็นชื่อซะ”

เรื่องนี้เป็นนิทานประกอบภาพ การเล่าเป็นตัวหนังสือล้วนๆ คงไม่ได้อารมณ์ ว่างๆ ถ้าสนใจต้องมาดูเล่มจริงเอาเอง เพราะรูปหนึ่งรูปนอกจากจะแทนคำพันคำแล้วยังแสดงอารมณ์ได้ชัดกว่าตัวหนังสือเป็นไหนๆ

และรูปทุกรูปล้วนแล้วแต่เริ่มจากหนึ่งจุด เหมือนการเขียนหนังสือก็เริ่มจากการกดแป้นพิมพ์หนึ่งตัวอักษร

เรื่อง The Dot นี้ถูกแปลเป็นภาษาอื่นๆ มากมาย แต่ยังไม่เห็นภาษาไทย แล้วก็กำลังจะได้ทำเป็นการ์ตูนหนังสั้น

ปีเตอร์ เรย์โนลด์ ใช้เวลาถึงปีครึ่งที่จะเขียน ตกแต่ง ขัดเกลาเรื่องนี้จนจบ เขาตั้งใจจะให้ The Dot เป็นเล่มแรกของไตรภาคที่เขาเรียกว่า Creatrilogy เสียดายที่เรื่องที่ตามมาคือ Ish ไม่ค่อยมีอะไรที่สามารถฉีกออกไปจากเล่มแรกมากเท่าไหร่ ส่วน North Star ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายดูจะแตกต่างด้วยการพูดถึงการเดินทางและจุดมุ่งหมายของชีวิตได้อย่างสวยงามโดยใช้คำง่ายๆ และช่องว่างเข้ามาสร้างอารมณ์

ในเว็บไซต์ของเขาบรรจุรายละเอียดผลงาน ที่มาของนิทานเรื่องต่างๆ รวมทั้งวิธีคิดของปีเตอร์

เขาสัญญากับตัวเองว่าจะเขียนบันทึกอะไรก็ได้ทุกสิ้นวัน ไม่ว่าจะด้วยการวาดรูป การแต่งกลอน คำซักคำนึง หรือแม้แต่เครื่องหมายอะไรก็ได้ เพื่อที่จะเป็นหลักฐานว่าเขายังมีชีวิตรอดมาอีกหนึ่งวัน

ย้อนทบทวนชีวิตแต่ละวันของเราที่อัดแน่นไปด้วยภาระและเรื่องราวอันหนักอึ้ง หลายวันที่เรารู้สึกดีใจที่มันจบลงไปได้ หลายๆ ครั้งที่การที่ทิ้งตัวลงบนเตียงคือการเข้าสู่เส้นชัย วินาทีที่หัวถึงหมอนคือวินาทีแห่งชัยชนะโดยที่ไม่มีใครจดสถิติใดๆ ไว้

นึกแล้วก็เสียดาย กี่วันของเราผ่านและจบไปโดยที่ไม่มีบันทึก ไม่มีร่องรอย ให้จด ให้จำ

.

..

Read Full Post »