Feeds:
Posts
Comments

Archive for the ‘สุนทรีย์การ’ Category

“จำเพื่อลืม ดื่มเพื่อเมา เหล้าเพื่อโลก
สุขเพื่อโศก หนาวเพื่อร้อน นอนเพื่อฝัน
ชีวิตนี้มีค่านัก ควรรักกัน
รวมความฝัน กับความจริง เป็นสิ่งเดียว”

 

โอมาร์  คัย ”ยัม” แคน สังคิต แปล

Read Full Post »

เสียดายที่ช้าไปเนิ่นนาน  คอนเสิร์ตนี้ตั้งแต่ปี ๒๐๐๒ เก็บดองดีวีดีไว้หลายปี  มัวแต่รออารมณ์แล้วอารมณ์เล่า  ส่วนซีดีนั้นฟังไปเมื่อหลายปีที่แล้ว  ความรู้สึกแตกต่างกันมากมายเมื่อได้เห็นภาพ   แค่เปิดตัวคอนเสิร์ตก็ขนลุกซู่  ดึงความรู้สึกได้รุนแรงเหลือเกิน  สนุกมากๆ  นักดนตรีสนับสนุนเพียง ๔ คน กับตำนานที่ยังมีลมหายใจ วัยล่วง ๖๐ ไปแล้ว  สุดๆครับผม  หมดปัญญาบรรยาย

บางคอนเสิร์ตเราทึ่งโปรดักชั่น  เราทึ่งนักร้อง  แต่คอนเสิร์ตนี้มันเป็นประวัติศาสตร์ของผู้คน  เพลงของ the Beatles เป็นเพลงของโลกนานแล้ว  นี่เป็นคอนเสิร์ตของหัวหอกคนสำคัญคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของ the Beatles

ตอนที่พอล เล่นเพลงเพื่อระลึกถึง เต่าทองที่จากไป  เลนนอน และ แฮร์ริสัน ทำเอาน้ำตาซึม  ภาพประกอบที่เคยร่วมเวทีครั้งที่ยิ่งใหญ่คับโลก  ครั้งที่บริติชตีอเมริกา  และตีโลกทั้งโลกได้สำเร็จด้วยคนสี่คน  ไม่สิ  ใช้คำว่าเปลี่ยนโลกได้เลยทีเดียว  ทำให้นึกไปถึงว่าบุคคลที่เราจับจ้องอยู่คนนี้  เขาได้เดินผ่านอะไรมาที่คนธรรมดาไม่อาจจินตนาการได้ถึง

อดรู้สึกไม่ได้ที่เห็นเด็กเล็กๆ ได้อินกับเพลงของคนรุ่นนี้  และวัยรุ่นในยุคดิจิตได้ตอบรับกับความสุขจากเพลงของคนรุ่นนี้  แอบหันมามองบ้านเราอยู่เหมือนกัน

กลายเป็นงานปาร์ตี้ที่นำด้วยคนวัยพักผ่อน ปรับดนตรีได้มันมากๆ  ร่วมสมัยโดยรักษาอารมณ์เดิมๆไว้ได้

นักดนตรีสนับสนุนเล่นกันได้สุดๆ  เยี่ยมมากๆคอนเสิร์ตนี้  ประทับใจอย่างมากมาย

ได้ดูการสัมภาษณ์คนดูที่เข้าร่วม  บางคนน้ำตาไหลเพราะรอคอยมายาวนาน  บางคนว่าครั้งนั้นของ the beatles เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงชีวิต  มีความตื้นตันหลายๆประการเกิดขึ้น  ทำเอาเราแป้วไปด้วย  และรู้ได้เลยว่าเราไม่เข้าใจเขา  ความยิ่งใหญ่ที่เรารู้สึกมันอาจจะเทียบไม่ได้เลยกับพวกเขาเหล่านั้น

ทิ้งท้ายรำลึกทึ่งเต่าทองที่เงียบที่สุด  สันโดษที่สุด  และเป็นศิลปินที่สุด (ตามที่สื่อเขาว่า)

ย้ำ…นี่เป็นคอนเสิร์ตที่เยี่ยมมากๆ  คนรัก the beatles ไม่มีเหตุผลที่จะละเลย  ความสุขล้วนๆ มั่นใจครับผม  อย่างน้อยเราก็ได้อยู่ทันคนดนตรีระดับประวัติศาสตร์โลกต้องจดจำจารึกอีกหนึ่งคน  ต่อๆไปนั้นบอกได้ยากมาก  ถ้าตัดการตลาดทิ้งแล้วใครจะเป็นตำนาน

อ้อ…นี่เพลงเปิดคอนเสิร์ต  เข้าท่ามั้ยล่ะ  แทบไม่ต่างกับเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วเลย

Read Full Post »

ถ้ามีใครไม่มีพื้นของซีรี่ย์เรื่องนี้   บอกกล่าวไว้ว่า หลายปีที่แล้ว  “เป็นต่อ(ชาคริต”)  เคยเป็นแฟนกับ  “ทิพย์(มยุริญ)”  อยู่หลายปี  เป็นต่อไม่สามารถหยุดความเจ้าชู้ของตัวเองได้  จึงเลือกที่จะบอกเลิกทิพย์ไป  ในมุมของผู้ชายที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ชายห่วยๆ  แล้วเคารพความสวยงามของผู้หญิงอีกคนเกินกว่าจะให้เขาเสียน้ำตาไปมากกว่านั้น  ทั้งที่ลึกๆ คนทั้งสองคนนี้ยังรักกันและหวังดีต่อกันตลอดมา

ที่เอาเรื่องนี้มาเขียน  มาเอ่ยกล่าวนั้นเพราะ  ส่วนตัวประทับใจกับตอนนี้มากๆ  แล้ววันนี้ได้ไปร่ำเบียร์กับจารย์ดล  ซึ่งนั่นก็ไม่แตกต่างกัน  จารย์เล่าว่าได้นั่งดูตอนนี้บนรถทัวร์  แล้วเสียอาการอย่างหนัก  ทำเอาไอ้คนทำงานกับอารมณ์อย่างผมรู้สึกดีขึ้นมาทีเดียว  คนโลจิกอย่างจารย์ก็เซได้ด้วยแอ๊คติ้งที่ขอบอกว่าสุดยอด  ยังถามจารย์เลยว่า

“นี่  ขนาดในรถทัวร์นะจารย์  ถ้าดูคนเดียวเล่า” ก็หัวเราะกันไปอย่างเข้าอกเข้าใจ

เชื่อไหมว่าขณะที่นั่งคุยกันถึงแต่ละฉากนั้น  ยังทำเอาผมขนลุกได้เลย

—-“ครั้งหนึ่ง  เราเคยรักกัน”—– ผมคิดถึงประโยคนี้ตลอดเวลาที่ขับรถไปหาจารย์ดล

มันหลากรสชาติหลากความรู้สึกเหลือเกิน   มัน…..มัน….กินเข้าไปถึงกระดูกของอารมณ์   เหมือนจะเจ็บเหมือนจะสุข   สุดท้ายคล้ายกับว่ามันไม่เหมือนอะไรเลย  อาจจะเพราะว่า มันเป็น ทั้ง “ครั้งหนึ่ง” ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้ว

เป็นเพราะว่าคำว่า “เรา” นั้นสะท้อนลึกลงในความผูกพัน

เป็นเพราะว่า มัน ”เคย” ซึ่งก็จะเกิดอีกได้ไม่ง่ายนัก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้

และเพราะว่าคำว่า “รักกัน” นั้นไม่อาจบรรยาย

หรือเพราะว่ามันมีเรื่องราวอารมณ์บางอย่างที่ดิ่งค้างอยู่ข้างในมาโดยตลอด  แล้วประโยคนี้ วันนี้  มันตีตะกอนที่ทิ้งนองให้ฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง

มันทำให้นึกถึงสัมผัสของความห่วงใยในอดีตที่ผ่านมา  สัมผัสของเยื่อใยหวังดีที่เคยได้รับ  สัมผัสของวันเวลาแห่งรอยยิ้มภายใน

เข็มนาฬิกาบนโลกสอนเราว่า มันไม่เคยมี “ครั้งหนึ่ง” หรอก

หากจะมี “ครั้งหนึ่ง” นั้นต้องสร้างด้วยเข็มความทรงจำของเราเอง….

—-“ครั้งหนึ่ง  เราเคยรักกัน”—–

—-“ครั้งหนึ่ง  เราเคยรักกัน”—–

Read Full Post »

“การสูญเสียความรู้สึกสะเทือนใจเป็นเรื่องใหญ่ของนักเขียน  เพราะหากมีแต่ความเฉยชา ไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว  การทำงานศิลปะย่อมถึงบทอวสาน”

 

จากคอลัมน์ “แตกกอ-ต่อยอด” โดย ศิลา โคมฉาย  มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ ๒๒-๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

Read Full Post »

ฟังเพลงวงเซ็กซี่รุ่นลูกรุ่นหลานแล้ว นึกถึงเซ็กซี่รุ่นคุณแม่คุณป้าขึ้นมา

Madonna มีหลายเพลงที่ผมชอบ สมัยเด็กๆ ดูคอนเสิร์ต Who’s that girl ของเจ๊แกอย่างมันส์เลย

แกเป็นต้นแบบให้ศิลปินรุ่นหลังมากมายเลยทีเดียว ส่งอิทธิพลมาถึงเกาหลีเดี๋ยวนี้ด้วย

เอามาฝาก 3 เพลง เหมือน Post ก่อนหน้านี้เลย จำกันได้มั่งไหมเอ่ย

ฟังๆดูบางเพลงกลิ่นไอคล้ายๆเพลงของ KARA ที่เคยเอามาฝากเลยนะ

Read Full Post »

มีไม่มากนัก สำหรับวงเกาหลีที่ผมชอบ

นี่เป็นวงหนึ่ง ชอบอยู่หลายเพลง ออกแนวคล้ายๆญี่ปุ่น ปนกับเพลงฝรั่งยุคเก่า

น้องๆเขาก็น่ารักดี ออกแนวหวานๆปนเซ็กซี่เล็กน้อย ไม่หวือหวาวาบหวิวเหมือนอีกหลายๆวง (เช่น Rainbow ของพี่ต่อขาร็อค เป็นต้น)

เอามาฝากซัก 3 เพลงนะ

Read Full Post »

อยู่ดีๆ มีจังหวะให้นึกถึงเพลงนี้เข้า

ฟังแล้วโดนดี แบบลูกทุ่งปนร็อคภูธร

เมโลดี้เพราะนะ แบบไทยแท้เลย

บรรเลงโดย บร๊ะเจ้าโจ้ก แอนด์เดอะแก็งค์

ซากอ้อย [So Cool]

Read Full Post »

Soundtrack เพราะๆ จาก Animation เรื่อง “The Sky Crawlers”

เอามาฝากให้ฟังสบายๆนะ

Konya mo Hoshi ni Dakarete

[Ayaka]

Sail Away

[Kenji Kawai]

Read Full Post »

พึ่งเคยเห็น วงต่างประเทศ ที่เขาชอบเพลงไทย และ เล่นเพลงไทยเป็นหลัก

วงนี้อยู่ที่แดนอาทิตย์อุทัย แต่มีนามกรว่า “หนุมาน

พวกเขาชื่นชอบเพลงไทยมากๆ และเอาเพลงไทยไปเล่นหลายเพลง ส่วนใหญ่จะเป็นแนวป๊อบร็อค เช่น Silly Fool, BodySlam, Potato และ Richman Toy

ที่มาของชื่อวงคือ เขาคิดว่า การที่มาร้องมาเล่นเพลงไทย โดยที่ร้องก็ไม่ชัดถ้อยชัดคำนัก มันดูเหมือนลิงทำเลียนแบบคน (แหม่ขนาดนั้น) แต่ไหนๆ จะเป็นลิงทั้งที ก็ขอเป็นลิงเทพก็ละกัน จึงได้ชื่อวงว่า หนุมาน ด้วยประการละฉะนี้

นอกจากจะ cover เพลงมาเล่นแล้ว รู้สึกว่าจะมีแต่งเพลงไทยเองด้วยนะ

สนใจรายละเอียดก็ลองแวะไปชมตามนี้

Home

http://www.youtube.com/user/hanumanband

เอามาลองให้ฟังซัก 2 เพลงนะ

Read Full Post »

ได้ข้อมูลรู้จักจากปองอีกเหมือนกัน  วงรุ่นเก๋า รวมตัวด้วยคนเบื้องหลังรุ่นใหญ่  นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ นักเรียบเรียง นักดนตรี ดูรายนามเอา

หลายๆคนผลงานมากมายก่ายกอง  ตั้งแต่เรามอต้นเลยทีเดียว…

เป๋า-กมลศักดิ์ สุนทานนท์ (Lead Vocal)
ตุ่น-พนเทพ สุวรรณะบุณย์ (Nylon Guitar)
เต้ง-ธนิต เชิญพิพัฒนสกุล (Drums)
พง-อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา (Keyboard)
ป้อม-เกริกศักดิ์ ยุวะหงษ์ (Percussion)
แตน-เศกสิทธิ์ ฟูเกียรติสุทธิ์ (Keyboard)
ตู๋-ปิติ ลิ้มเจริญ (Acoustic Guitar)
เก่ง-เทอดไทย ทองนาค (Electric Guitar)
โอ-ศราวุธ ฤทธิ์นันท์ (Bass)

featuring น้อง แคล … มีภาคภาษาไทยชื่อเพลง สายลม เนาะ คุณน้อง แคล แกร้องดีจริงๆ…เฮ้อ

อ้าว…มีเพลงนี้ก็น่าสนใจ Sinner In a Way

อุดมด้วยยูทูป  ขี้เกียจทำอะไรเนื้อหาเยอะๆแล้ว ว่ากันตามสภาพเนาะ

Read Full Post »

เพื่อนป๊อกส่งมาให้  มันดีเสียจนไม่อยากเก็บเอาไว้เฉยๆ  แบ่งกันเสพเนาะเพื่อนๆ

Read Full Post »

Thank  you  for  buying  this  music  and  for  supporting  the  artists,  song writers,  musicians  and  others  who’ve  created  it  and  made  it  possible.  Please  remember  that  this  recording  and  artwork  are  protected  by  copyright  law.  Since  you  don’t  own  the  copyright,  it’s  not  yours  to  distribute.  Please  don’t  use  internet  services  that  promote  the  illegal  distribution  of  copyright  music,  give  away  illegal  copies  of  discs  or  lend  to  others  for  copying.  It’s  hurting  the artists  who  created  the  disc.  It  has  the  same  effect  as  stealing  a  disc  from  a  store  without  paying  for  it .  Applicable  laws  provide  severe  civil  and  criminal  penalties  for  the  unauthorized  reproduction,  distribution  and  digital  transmission  of  copyrighted  sound  recording.

(ด้านในปกอัลบั้ม Bible Belt – Diane Birch)

อ่านจบ  ผมน้ำตาซึมๆ  หนึ่งความคิดก็รู้สึกดีที่เป็นหนึ่งในคนที่เธอขอบคุณ  หนึ่งความคิดก็รู้สึกถึงความท้อถอยที่แฝงมาในประโยคข้างบนนี้

บางคนอยู่กับดนตรีเพราะรักดนตรี  บางคนอยู่กับดนตรีเพราะหากินกับคนตรี  บางคนเป็นทั้งสองอย่าง  หลายคนใช้ดนตรีเพื่อประโยชน์สารพัดอย่างๆของตนเอง

เพื่อนคนหนึ่งเคยเอ่ยปากว่า

“กูเห็นมึงเอาตังค์ซื้อซีดีเยอะแยะ  แล้วกูงงเลย…  แต่ก็เนอะ  งานของมึงนี่”

ผมยิ้มๆ เออๆออๆไป  หลายปีมาแล้วกับเรื่องเหล่านี้

ความจริงแล้ว  ซีดีที่ใช้ทำงานจริงๆ (ไม่เต็มใจนัก แต่จำเป็น)  ผมซื้อไม่ถึงครึ่ง  ไม่ถึงหนึ่งในสามด้วยซ้ำ  มันมีอะไรมากกว่าเรื่องงานมากมายนัก

คนรักกันจะจ้องเอาเปรียบกันหรือ…  แล้วคนรักเพลงจะเอาเปรียบเพลงหรือ…  จะเอาเปรียบสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเนี่ยนะ…

โรส ศิรินทิพย์ นักร้องเสียงดี  ที่ใครหากไม่รู้จักก็คงต้องว่าคุณตกรุ่นไปแล้ว  เธอได้พูดในงานแสดงดนตรีครั้งหนึ่งว่า

“โรส  เป็นนักร้อง  ถึงอัลบั้มไม่เป็นที่รู้จักนัก  ยอดขายไม่ดี  โรส ก็ยังได้มาร้องเพลงตามงานตามที่ต่างๆ  พอมีรายได้เอาตัวรอดไปได้บ้าง  แต่คนเบื้องหลัง  เค้าไม่สามารถมาโชว์การแต่งเพลง  โชว์การทำดนตรีได้  แล้วพี่ๆเหล่านั้นเขาจะอยู่ยังไง  บางคนเกิดมาเพื่อเขียนเพลงเท่านั้น  เกิดมาเพื่อทำดนตรีเท่านั้นเขาจะทำยังไง…”

ในงานดูเหมือนไม่มีใครสนใจฟังเธอพูดด้วยซ้ำ  มีผมที่ยืนฟังอยู่และแอบขอบใจ ชื่นชม  ที่เธอเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนเบื้องหลังที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

ฟังดูไม่ต่างจากชาวนาคราวนาล่มนาแล้งเลยนะ…

Read Full Post »

If I Ain’t Got You [Alicia Keys]

Some people live for the fortune
Some people live just for the fame
Some people live for the power yeah
Some people live just to play the game

Some people think that the physical things
Define what’s within
I’ve been there before
But that life’s a bore
So full of the superficial

Some people want it all
But I don’t want nothing at all
If it ain’t you baby

If I ain’t got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain’t got you

Some people search for a fountain
Promises forever young
Some people need three dozen roses
And that’s the only way to prove you love them

And in a world on a silver platter
And wondering what it means
No one to share, no one who truly cares for me

Some people want it all
But I don’t want nothing at all
If it ain’t you baby
If I ain’t got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain’t got you

Some people want it all
But I don’t want nothing at all
If it ain’t you baby
If I ain’t got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain’t got you

If I ain’t got you with me baby
Nothing in this whole wide world don’t mean a thing
If I ain’t got you with me baby

[Lyrics from http://www.siamzone.com, MV from Youtube]

Read Full Post »

สอนกีตาร์เสร็จสี่โมงครึ่ง  รอซ้อมดนตรีที่อาร์ซีเอ สามทุ่ม  โอ้…ช่วงเวลาที่ค้างคานี้จะทำอะไรดีหนอ

วูบไปว่าดูหนังดีกว่า  อือ…แต่เรื่องอะไรดี  ยังไม่มีแรงจูงใจอะไรเลย

“Kick-Ass สิพี่  หนูอยากดู” แอนว่า

ผมมึนไปเลย  มันคืออะไรวะ    ไม่มีข่าวคราวหนังมาพักใหญ่ๆ  จับพลัดจับผลูก็เลือกเอาหน้าโรงนั่นแหละ

ถึงหน้า ยูเอ็มจี อาร์ซีเอ (โรงหนัง) ห้าโมงนิดๆ  ยืนมึนๆอีกครั้งหน้าตารางรอบหนัง  ไม่มีอะไรอยู่ในเวลาให้เลือกเลย  Kick-Ass นั้นก็เลยไปเกือยสิบนาทีแล้ว

ตัดสินใจเข้าถามที่บ๊อกออฟฟิศ  เจ้าหน้าที่โทรถามให้

“ถ้าพี่เข้าดูตอนนี้เลยทันพี่”  ผมลังเลเพราะไม่ชอบเข้าดูหนังสาย

“ทันจริงๆพี่  ไตเติ้ลกำลังจะจบ”  เอาๆ  ก็ไม่มีอะไรให้เลือกแล้วนิ

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้ยึดครองโรงหนังเพียงผู้เดียว  ปลอดโปร่งจากเสียงคุย  เสียงมือถือ ถุงก๊อบแก๊บ เสียงของความไม่มีมารยาทอื่นๆ

ดู Kick-Ass ไปซักพัก  เฮ้ย…หนังแ-่งเจ๋งว่ะ

“อะไรว่ะ  คนชอบซุปเปอร์ฮีโร่มีเป็นล้านคนทั่วโลก  จะไม่มีใครซักคนที่บ้าพอที่จะลุกขึ้นมาผดุงความยุติธรรมต่อสู้กับคนเลวบ้างเลยเหรอ” เดฟ พระเอกของเรื่องปรารภเสียงดัง

“ถ้ามี แ-่งก็ตายคากองตีนไปก่อนที่มึงจะรู้จักมันแล้วล่ะ” เพื่อนตอบ  (เอาความประมาณนี้นะ)

หนังเหน็บแนมประชดประชันสนุกสนาน  บทบู๊ก็โหดมันหนักหนา แต่ผมว่าสร้างสรรค์นะ  ใครชอบฉากต่อสู้จาก Kill Bill น่าจะชอบนะ

น้องผู้หญิงฮีโร่สีม่วงนั้นเล่นดี  เล่นเก่ง  และยังได้ความรู้สึกของตัวการ์ตูนด้วย

นิโคลัส เคจ ในบทที่ไม่คุ้นตานัก  เข้าท่าๆ

หนังมีอะไรให้คาดเดาไม่ได้อยู่ตลอดเวลา(ไอ้ที่เดาได้ก็พอมี)  มีสไตล์มากๆ

บางจังหวะถึงกับหัวเราะ หึๆๆ  แ-่ง มึงเอางี้เลยเหรอ  เจ๋งว่ะ ชอบๆ

เอาเป็นว่าชอบขนาดที่ออกจากโรง ต้อง sms ไปชื่นชมให้ คนจร นายยอด และแอน เหล่าพรรคพวกที่คาดว่าจะชอบหนังแนวนี้

ชอบขนาดที่ รู้สึกว่าดูอีกรอบได้  และจะหาดีวีดีมาเก็บไว้   อือ…อยากดูอีกรอบว่ะ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

วันนี้เจอนักเรียนใหม่  วัยใสขึ้นปีสอง น้องผู้หญิงฝาแฝดสองคน (ต้องบอกว่าสองคนด้วยใช่ไหม)

นึกภาพเด็กผู้หญิงขาวๆ ตัวเล็กๆ ออกหมวยๆหน่อย  แต่งชุดฟอร์มเหมือนกันเป๊ะ  ชมพูขาว  กางเกงขาสั้นตามสมัยนิยม หวานใสซะ

เป็นธรรมเนียมที่ชั่วโมงแรก  ผมจะต้องถามไถ่ถึงความต้องการที่ตัดสินใจมาเรียนว่าจะแค่ไหนอย่างไร  ไปจนถึงฟังเพลงแบบไหนแนวไหนมา

“ก็เพลงชิลๆ ทั่วไปค่ะ” น้องว่า

“แล้วพวกเกาหลีล่ะ” ผมถาม

“ไม่ฟังค่ะ  รู้จักแต่ไม่ฟัง  ไม่ชอบ” คำตอบนี้ผิดคาด  ผู้หญิงวัยนี้  โทนนี้  ส่วนใหญ่ถึงไม่คลั่งไคล้ก็ต้องฟังบ้างแหละ

“แล้วเพลงชิลๆ  ที่เราว่านี้ยังไง  ไหนยกๆมาให้หน่อยซิ”

“เออ…คาราบาว ค่ะ”

“………..???”

Read Full Post »

จะเรียกอย่างไรก็ตาม  ก็ได้ชื่นชมชื่นชอบตะแก่ครั้งแรกที่ได้ดูในจอโทรทัศน์  ตอนนั้นก็รีบขวนขวายจะหามาแปะให้พรรคพวกผู้มีใจสุนทรีย์ได้ชมกัน  ก็ยังไม่สามารถหาได้

ผ่านมานานเนิ่นจนได้เวียนมาจับต้องซีดีชุดนี้ ให้ได้ระลึกถึงเอ็มวีสุดวิเศษนี้อีกครั้ง  คราวนี้ได้เวลาแปะสู่กันฟังกันชมเสียทีเนาะ…

เก่งจริงๆครับ ชอบๆ

Read Full Post »

Older Posts »