เสียดายที่ช้าไปเนิ่นนาน คอนเสิร์ตนี้ตั้งแต่ปี ๒๐๐๒ เก็บดองดีวีดีไว้หลายปี มัวแต่รออารมณ์แล้วอารมณ์เล่า ส่วนซีดีนั้นฟังไปเมื่อหลายปีที่แล้ว ความรู้สึกแตกต่างกันมากมายเมื่อได้เห็นภาพ แค่เปิดตัวคอนเสิร์ตก็ขนลุกซู่ ดึงความรู้สึกได้รุนแรงเหลือเกิน สนุกมากๆ นักดนตรีสนับสนุนเพียง ๔ คน กับตำนานที่ยังมีลมหายใจ วัยล่วง ๖๐ ไปแล้ว สุดๆครับผม หมดปัญญาบรรยาย
บางคอนเสิร์ตเราทึ่งโปรดักชั่น เราทึ่งนักร้อง แต่คอนเสิร์ตนี้มันเป็นประวัติศาสตร์ของผู้คน เพลงของ the Beatles เป็นเพลงของโลกนานแล้ว นี่เป็นคอนเสิร์ตของหัวหอกคนสำคัญคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของ the Beatles
ตอนที่พอล เล่นเพลงเพื่อระลึกถึง เต่าทองที่จากไป เลนนอน และ แฮร์ริสัน ทำเอาน้ำตาซึม ภาพประกอบที่เคยร่วมเวทีครั้งที่ยิ่งใหญ่คับโลก ครั้งที่บริติชตีอเมริกา และตีโลกทั้งโลกได้สำเร็จด้วยคนสี่คน ไม่สิ ใช้คำว่าเปลี่ยนโลกได้เลยทีเดียว ทำให้นึกไปถึงว่าบุคคลที่เราจับจ้องอยู่คนนี้ เขาได้เดินผ่านอะไรมาที่คนธรรมดาไม่อาจจินตนาการได้ถึง
อดรู้สึกไม่ได้ที่เห็นเด็กเล็กๆ ได้อินกับเพลงของคนรุ่นนี้ และวัยรุ่นในยุคดิจิตได้ตอบรับกับความสุขจากเพลงของคนรุ่นนี้ แอบหันมามองบ้านเราอยู่เหมือนกัน
กลายเป็นงานปาร์ตี้ที่นำด้วยคนวัยพักผ่อน ปรับดนตรีได้มันมากๆ ร่วมสมัยโดยรักษาอารมณ์เดิมๆไว้ได้
นักดนตรีสนับสนุนเล่นกันได้สุดๆ เยี่ยมมากๆคอนเสิร์ตนี้ ประทับใจอย่างมากมาย
ได้ดูการสัมภาษณ์คนดูที่เข้าร่วม บางคนน้ำตาไหลเพราะรอคอยมายาวนาน บางคนว่าครั้งนั้นของ the beatles เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงชีวิต มีความตื้นตันหลายๆประการเกิดขึ้น ทำเอาเราแป้วไปด้วย และรู้ได้เลยว่าเราไม่เข้าใจเขา ความยิ่งใหญ่ที่เรารู้สึกมันอาจจะเทียบไม่ได้เลยกับพวกเขาเหล่านั้น
ทิ้งท้ายรำลึกทึ่งเต่าทองที่เงียบที่สุด สันโดษที่สุด และเป็นศิลปินที่สุด (ตามที่สื่อเขาว่า)
ย้ำ…นี่เป็นคอนเสิร์ตที่เยี่ยมมากๆ คนรัก the beatles ไม่มีเหตุผลที่จะละเลย ความสุขล้วนๆ มั่นใจครับผม อย่างน้อยเราก็ได้อยู่ทันคนดนตรีระดับประวัติศาสตร์โลกต้องจดจำจารึกอีกหนึ่งคน ต่อๆไปนั้นบอกได้ยากมาก ถ้าตัดการตลาดทิ้งแล้วใครจะเป็นตำนาน
อ้อ…นี่เพลงเปิดคอนเสิร์ต เข้าท่ามั้ยล่ะ แทบไม่ต่างกับเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วเลย